วันที่ 17 มีนาคม 2565 รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดี มทร.อีสาน มอบหมายให้ อ.ดร.อนิรุธ พิพัฒน์ประภา ผู้ช่วยอธิการบดี และ ผศ.ดร.ศตคุณ เดชพันธ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี มทร.อีสาน เข้าร่วมลงนามความร่วมมือกับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และเครือข่ายพันธมิตร ในการพัฒนาและการส่งเสริม Wellness Hub ของประเทศไทย ระยะที่ 2 ภายใต้นโยบายการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ภายในงาน “Thailand International Health Expo 2022” ณ รอยัลพารากอนฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน กรุงเทพมหานคร
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ นโยบายและแผนการพัฒนาประเทศไทยเป็นศูนย์กลางบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพ (Wellness Hub) เชื่อมโยงในระดับมหภาคและเชิงพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอีสาน ให้จังหวัดนครราขสีมาเป็นศูนย์กลาง ซึ่งทาง มทร.อีสาน รับเป็นหัวแรงหลักขับเคลื่อน ร่วมกับ มทส. โดยใช้วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ยกระดับคุณภาพและมาตรฐานด้านการผลิตและบริการ ซึ่งนำไปสู่ห่วงโซ่แห่งคุณค่า (Value Chain) ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมบริการและผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เกี่ยวข้องกับกิจการเวลเนส ในการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศไทย ทั้งยังจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาเขตระเบียงเศรษฐกิจเวลเนสประเทศไทย (Thailand Wellness Economic Corridor) และเขตนวัตกรรมส่งเสริมสุขภาพ (Wellness Innovation District) ให้เป็นพื้นที่ที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างเข้มข้น พร้อมยกระดับเป็นพื้นที่เศรษฐกิจมูลค่าสูง นอกจากนี้จะร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาทางกายภาพ อาคารเพื่อสุขภาพ โครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค สิทธิประโยชน์ การประกันสุขภาพ ที่เป็นส่วนประกอบในนิเวศธุรกิจของอุตสาหกรรมบริการและผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เกี่ยวข้องกับกิจการเวลเนส
ทั้งนี้ในบริบทของมหาวิทยาลัย ทาง มทร.อีสาน จะร่วมพัฒนาและเพิ่มศักยภาพของบุคลากรให้มีสมรรถนะขั้นสูง ตอบสนองและเตรียมความพร้อมรองรับอุตสาหกรรมเวลเนสของประเทศไทย ซึ่ง มทร.อีสาน มีความพร้อมทั้งด้านของบุคลากร เครื่องมือ และสถานที่ ในการผลักดันด้านพืชสมุนไพรเพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางการให้บริการสุขภาพอย่างเต็มที่ โดยปัจจุบัน มทร.อีสาน มีการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ ด้านการแพทย์แผนไทย รวมไปถึงด้านการผลิตเครื่องมือทางวิศวกรรมการแพทย์ และยังได้มุ่งขับเคลื่อนด้านพืชสมุนไพร กัญชง กัญชา กระท่อม ให้เป็นพืชเศรษฐกิจและเป็นพืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพของไทยอย่างเป็นรูปธรรมอีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้จะสามารถทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบริการด้านสุขภาพได้อย่างรวดเร็วและเพรียบพร้อมที่สุดอย่างแน่นอน
จิตสุภา ประหา /ข่าว
บารมี โกนบาง /ภาพ
