
วันที่ 8 สิงหาคม 2568 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ จัดประชุมหารือแนวทางการดำเนินงานและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดี มทร.อีสาน เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.สำเนาว์ เสาวกูล รองอธิการบดีประจำวิทยาเขตสุรินทร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอนก เจริญภักดี รองอธิการบดีฝ่ายยุทธศาสตร์ นโยบายและแผน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นัฐวุฒิ ทิพย์โยธา รองอธิการบดีฝ่ายส่งเสริมและพัฒนากิจการมหาวิทยาลัย อาจารย์ ดร.โสภิดา สัมปัตติกร ผู้ช่วยอธิการบดี คณาจารย์ และเจ้าหน้าที่ มทร.อีสาน เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมโกดกง 2 อาคารอำนวยการ สำนักงานวิทยาเขตสุรินทร์








การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหารือและแลกเปลี่ยนข้อเสนอแนวทางการจัดการศูนย์พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้ประสบภัย โดยมุ่งเน้นให้การบริหารจัดการมีความเป็นระบบ ครอบคลุมทั้งด้านสถานที่พักอาศัย อาหาร น้ำดื่ม การดูแลด้านสาธารณสุข และการประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐและภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เพื่อให้สามารถรองรับผู้ประสบภัยได้อย่างเพียงพอและปลอดภัย ซึ่งมหาวิทยาลัยฯ ได้ให้การดูแลและสนับสนุนศูนย์พักพิงดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงวิกฤต ไม่เพียงในด้านสิ่งของจำเป็น แต่ยังรวมถึงการจัดกำลังบุคลากรและนักศึกษาอาสาสมัครลงพื้นที่ช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก และสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบภัย เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
ในโอกาสเดียวกัน คณะผู้บริหาร คณาจารย์ และบุคลากร ได้ร่วมแสดงความยินดีกับ รองศาสตราจารย์ ดร.โฆษิต ศรีภูธร ในโอกาสได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน อย่างเป็นทางการ






ภายหลังการประชุม รองศาสตราจารย์ ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดี พร้อมคณะผู้บริหาร ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์พักพิงและพื้นที่ปลอดภัย เพื่อพบปะ พูดคุย และให้กำลังใจแก่ผู้ประสบภัยอย่างใกล้ชิด ทั้งกลุ่มที่อยู่ระหว่างการเดินทางกลับภูมิลำเนา และกลุ่มที่ยังคงพักพิงอยู่ในพื้นที่ศูนย์ฯ โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่เพียงเพื่อสอบถามข้อมูลความต้องการที่จำเป็นเร่งด่วน แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงความห่วงใยและการอยู่เคียงข้างประชาชนในช่วงเวลาที่ยากลำบาก โดยคณะผู้บริหารได้ร่วมมอบคำแนะนำ สนับสนุนสิ่งของจำเป็น และรับฟังปัญหาเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงการช่วยเหลือให้สอดคล้องกับสภาพจริงมากยิ่งขึ้น














