
วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน โดย รองศาสตราจารย์ ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดี มทร.อีสาน มอบหมายให้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอนก เจริญภักดี รองอธิการบดีฝ่ายยุทธศาสตร์ นโยบายและแผน พร้อมด้วย อาจารย์ ดร.วันเฉลิม พูนสวัสดิ์ และ อาจารย์ ดร.ยุทธพงษ์ อินทร์กง อาจารย์ประจำสาขาฟิสิกส์ประยุกต์ คณะวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ เข้าพบ นางสุภาพร โชคเฉลิมวงศ์ ผู้อำนวยการกองบริหารทุนวิจัยและนวัตกรรม 1 สำนักงานวิจัยแห่งชาติ (วช.) และ รองศาสตราจารย์ ดร.สุขุม อิสเสงี่ยม ผู้ประสานงานหลักศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบไมโครอิเล็กทรอนิกส์แห่งประเทศไทย (Hub for Future Technology เพื่อหารือแนวทางพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูงด้าน Semiconductor ตามนโยบาย 4+2 ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รองรับการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ และเทคโนโลยีแห่งอนาคต ห้องประชุมสำนักงานวิจัยแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร
ในการนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอนก เจริญภักดี รองอธิการบดีฝ่ายยุทธศาสตร์ นโยบายและแผน และคณะทำงาน ได้ร่วมแลกเปลี่ยนและนำเสนอศักยภาพความพร้อมของมหาวิยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลทั้ง 9 แห่ง ในด้านการเพิ่มศักยภาพของบุคลากรวิจัย มทร. เพื่อเป็น Train The Trainer ด้านเซมิคอนดักเตอร์ ผ่านการฝึกอบรมและการแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกับหน่วยงานด้านเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำของประเทศ เพื่อยกระดับทักษะและความเชี่ยวชาญให้สอดคล้องกับมาตรฐานในระดับนานาชาติ (Upskill และ Reskill) โดยการอบรมเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ทางด้านเซมิคอนดักเตอร์ให้แก่ อาจารย์ นักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ประชาชนที่สนใจ และต่อยอดสู่การอบรมเชิงปฏิบัติการด้านเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อเสริมสร้างทักษะในการพัฒนาและออกแบบอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ในงานด้านต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการกำลังคนสำหรับอุตสาหกรรมอนาคต โดยได้รับข้อแนะนำและแนวทางจากผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักงานวิจัยแห่งชาติ เพื่อร่วมสร้างรูปธรรมต้นแบบของหลักสูตรระยะสั้นในการ Up Skill,Re-Skill สำหรับ Train The Trainer และกำลังคนสมรรถนะสูงสู่อุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ








มทร.อีสาน ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้าน Semiconductor ตามยุทธศาสตร์การพัฒนามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานสู่ความยั่งยืน ระยะ 5 ปี (พ.ศ.2565-2569) ผ่านจุดเน้นเชิงยุทธศาสตร์ ClusterLogistic เพื่อพัฒนากำลังคนสู่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งเป็นแกนกลางของเศรษฐกิจโลกยุคดิจิทัล และเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก และมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน ทั้งในด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์อัจฉริยะ และ AI ในขณะที่ประเทศไทยมีรายได้จากการส่งออกไมโครอิเล็กทรอนิกส์มากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี แต่ยังขาดโครงสร้างด้านเทคโนโลยีขั้นสูงและบุคลากรวิจัยที่สามารถยกระดับการแข่งขันในตลาดโลกได้ ส่งผลให้ประเทศอาเซียนคู่แข่งได้รับการลงทุนอย่างมหาศาลจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ อาทิ ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนามต่างพัฒนาอย่างรวดเร็วในฐานะฐานการผลิตหลักของบริษัทอย่าง Intel, Samsung และ Infineon โดยเฉพาะเวียดนามที่ได้เปรียบด้านแรงงานมีคุณภาพในต้นทุนต่ำ ดังนั้นการพัฒนากำลังคนจึงต้องอาศัยความร่วมมือจากสถาบันอุดมศึกษาและสถาบันวิจัย ซึ่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ร่วมกับหน่วยงานระดับประเทศ เช่น สถาบันแสงซินโครตรอน และศูนย์เทคโนโลยีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ มีความพร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีขั้นสูงไปสู่ภาคอุตสาหกรรม เพิ่มอัตราการผลิตบุคลากรที่มีทักษะขั้นสูง เพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน และดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศอย่างยั่งยืน


พนิตพิชา บวรรชฏเดชา / ข่าว