มทร.อีสาน เข้าร่วมงาน “2025 UNTA Annual Assembly” ณ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ภายใต้หัวข้อ “Green Transformation in Tropical Agriculture Universities”

ระหว่างวันที่ 5-8 พฤศจิกายน 2568 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน โดย รองศาสตราจารย์ ดร.โฆษิต ศรีภูธร รักษาราชการแทน อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน มอบหมายให้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ระบิล พ้นภัย รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและวิเทศสัมพันธ์  เป็นผู้แทนมหาวิทยาลัยฯ เข้าร่วมงาน “2025 UNTA Annual Assembly” ณ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามภายใต้หัวข้อ “Green Transformation in Tropical Agriculture Universities  จัดโดย National Pingtung University of Science and Technology, Taiwan และ Thai Nguyen University of Agriculture and Forestry, Vietnam

พิธีเปิดการประชุมได้รับเกียรติจากผู้แทน Ministry of Agriculture and Environment  แห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม กล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการ สะท้อนบทบาทสำคัญของความร่วมมือด้านการเกษตรเขตร้อนและการยกระดับสถาบันอุดมศึกษาไปสู่ความเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวอย่างยั่งยืนภายในงานประกอบด้วยการประชุมสัมมนานานาชาติและการบรรยายปาฐกถาพิเศษในประเด็นสำคัญ ได้แก่

“Green Transformation in Universities” โดย Thai Nguyen University of Agriculture and Forestry, Vietnam

“Sustainable Veterinary in the Era of Green Transformation” โดย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, ประเทศไทย

“Green Technologies in Agriculture” โดย Universitas Brawijaya, Indonesia

“Sustainable Consumption and Green Supply Chains” โดย University of Guam

ในโอกาสนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ระบิล พ้นภัย ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แทนลงนามใน บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) กับเครือข่าย UNTA (University Network for Tropical Agriculture) เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านการวิจัย นวัตกรรม และการพัฒนาบุคลากรระหว่างประเทศ พร้อมทั้งได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านความยั่งยืน เทคโนโลยีสีเขียว และแนวทางการพัฒนาการศึกษาด้านเกษตรเขตร้อนร่วมกับผู้แทนมหาวิทยาลัยสมาชิกจากหลายประเทศ

นอกจากนี้ คณะผู้แทนได้เข้าร่วมกิจกรรมศึกษาดูงาน ณ Thai Hai Village และ Museum of Culture of Vietnam’s Ethnic Groups เพื่อเรียนรู้มิติด้านวัฒนธรรม วิถีชุมชน ภูมิปัญญาท้องถิ่น และแนวทางการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของชุมชนชาติพันธุ์ในเวียดนาม ซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่สามารถประยุกต์ใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอน การวิจัย และการขับเคลื่อนการเกษตรและชุมชนสู่ความยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่สามารถต่อยอดเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศในอนาคต

การเข้าร่วมงานในครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ในการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือระดับนานาชาติ ขยายบทบาทของมหาวิทยาลัยในเวทีอุดมศึกษาด้านการเกษตรเขตร้อน และร่วมผลักดันการพัฒนาด้านอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และความต้องการของสังคมโลกในอนาคตอย่างเป็นรูปธรรม