มทร.อีสาน ร่วมงาน “Thailand–China Cooperation Expo 2025” ฉลอง 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน เดินหน้าส่งเสริมความร่วมมือ 5 มิติ

เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน โดย รองศาสตราจารย์ ดร.โฆษิต ศรีภูธร รักษาราชการแทนอธิการบดี มทร.อีสานมอบหมายให้ รองศาสตราจารย์ ดร.ณรงค์ศักดิ์ โยธา ผู้ช่วยอธิการบดี เข้าร่วมงาน Thailand–China Cooperation Expo 2025 จัดขึ้น ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน อันเป็นหมุดหมายสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างสองประเทศสู่อนาคต

ภายในงานได้รับเกียรติจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน “Thailand–China Cooperation Expo 2025” โดยมีบุคคลสำคัญเข้าร่วม อาทิ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี, นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน, นายจาง เจี้ยนเว่ย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย รวมถึงคณะกลไกประสานงานและส่งเสริมธุรกิจไทย–จีนอย่างยั่งยืน (TCTM) ได้แก่ ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, คุณณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย–จีน, คุณหลิว เฉวียนเหลย นายกสมาคมการค้าวิสาหกิจจีนในไทย ตลอดจนผู้แทนนักลงทุนและผู้ประกอบการชั้นนำจากทั้งสองประเทศ

ทั้งนี้ งาน Thailand–China Cooperation Expo 2025 ได้ชูความร่วมมือใน 5 มิติหลัก ได้แก่

  1. การลงทุนและอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV)
  2. เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล
  3. การศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
  4. การท่องเที่ยวและวัฒนธรรม
  5. การค้าและความร่วมมือด้านเศรษฐกิจสีเขียว

สำหรับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน การเข้าร่วมงานในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการและงานวิจัยกับนานาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการต่อยอดการเรียนการสอนและการพัฒนาบุคลากรในสาขาที่เกี่ยวข้องกับ ยานยนต์ไฟฟ้า เทคโนโลยีอัจฉริยะ และนวัตกรรมสมัยใหม่ อันเป็นสาขาแห่งอนาคตที่กำลังได้รับความสนใจในระดับโลก

มทร.อีสานยังคงเดินหน้ายกระดับคุณภาพการศึกษา สร้างโอกาสให้นักศึกษาและบุคลากรได้ก้าวสู่เวทีนานาชาติ และพร้อมทำหน้าที่เป็น “สะพานเชื่อมโยง” ทางวิชาการและเทคโนโลยีระหว่างไทย–จีน เพื่อการพัฒนาอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต