
วันที่ 29 กันยายน 2568 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน โดย รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดี มทร.อีสาน มอบหมายให้ อาจารย์สรวิศ ต.ศิริวัฒนา รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ อาจารย์ธนินทร์ ระเบียบโพธิ์ ผู้ช่วยอธิการบดี เข้าร่วมงานสัมมนาวิชาการด้านพัฒนานักศึกษา ปี 2568 “การพัฒนานิสิตนักศึกษาในยุค AI: ความท้าทายในอนาคต” (Student Development in the AI Era: The Future Challenges) โดยมี นางสาววราภรณ์ รุ่งตระการ รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานเปิดงานและปาฐกถาพิเศษ ซึ่งมีผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษา ผู้ทรงคุณวุฒิ คณาจารย์ และผู้นำนิสิตนักศึกษา เข้าร่วมกว่า 600 คน ณ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการ และคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร
สำหรับการสัมมนาครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของผู้บริหาร บุคลากร และผู้นำนิสิตนักศึกษา ร่วมกันกำหนดทิศทางการพัฒนานักศึกษาให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ซึ่งเทคโนโลยี AI ไม่เพียงเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเรียนรู้และการทำงาน แต่ยังท้าทายเราด้วยประเด็นด้านจริยธรรม ความเสมอภาค และคุณค่าความเป็นมนุษย์ มหาวิทยาลัยจึงต้องปรับบทบาทจากการเป็นเพียงแหล่งถ่ายทอดความรู้ สู่การเตรียมผู้เรียนให้พร้อมสำหรับโลกที่ AI มีบทบาทสูง
นางสาววราภรณ์ รุ่งตระการ รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า ประเทศไทยมีแผนปฏิบัติการด้าน AI แห่งชาติ (พ.ศ. 2565–2570) ซึ่งเสนอโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกระทรวง อว. มีเป้าประสงค์หลัก 3 ด้าน คือ (1) การสร้างคนและเทคโนโลยี (2) การสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ และ (3) การสร้างผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยกระทรวง อว. ได้ดำเนินนโยบาย “อว. for AI” ครอบคลุม 3 ด้านหลัก คือ AI for Education หรือการใช้ AI ยกระดับการเรียนการสอนและการเรียนรู้ตลอดชีวิต AI Workforce Development มุ่งพัฒนากำลังคนด้าน AI ตั้งแต่ระดับพื้นฐานถึงผู้เชี่ยวชาญ และ AI Innovation สนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม AI สู่การใช้งานจริง
“พลังของทุกท่านจะสามารถผลักดันประเทศให้พัฒนาไปได้อย่างยั่งยืนในอนาคต และเวทีนี้จะเป็นพื้นที่ “ร่วมสร้าง” ที่นำเอาความคิด ประสบการณ์ และพลังของนิสิตนักศึกษามาหลอมรวมเป็นแนวทางปฏิบัติที่ใช้ได้จริง เกิดการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ และผลักดันประเทศให้ก้าวไปอย่างยั่งยืน” รองปลัดกระทรวง อว. กล่าว





