มทร.อีสาน โดย คณะบริหารธุรกิจ จัดทำ มทร.อีสาน โพล สำรวจความคิดเห็นของประชาชนในหัวข้อ “สงกรานต์วิถีใหม่ สืบสานวัฒนธรรมไทย 2565” เผยแพร่เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2565 โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศ กระจายสัดส่วนตามช่วงอายุ อาชีพ และรายได้ พบว่าประชาชนส่วนใหญ่วางแผนพักผ่อนอยู่บ้าน แม้ว่าจะฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิป้องกันโควิด-19แล้ว 3 เข็ม
รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดี มทร.อีสาน เปิดเผยว่า เทศกาลสงกรานต์นั้นเป็นเทศกาลสำคัญของชาวไทย เนื่องจากเป็นวันขึ้นปีใหม่ไทย ทางรัฐบาลได้กำหนดให้เป็นวันหยุดพิเศษซึ่งมีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน ทำให้ทุก ๆ ปีประชาชนจะวางแผนเพื่อไปเที่ยวพักผ่อนยังสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงเดินทางกลับยังถิ่นฐานบ้านเกิดเพื่อไปรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ เข้าวัดทำบุญ ทำทานตามประเพณีดั้งเดิมของไทย แต่ทว่าในช่วง 3 ปี ที่ผ่านมานี้ หลังจากที่มีโรคระบาดของไวรัสโควิด-19 ต่างก็ทำให้พฤติกรรมของประชาชนเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากต้องใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวังมากขึ้นเพื่อป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากโรค
โดยจะเห็นได้จากผลสำรวจจากผู้ตอบแบบสอบถาม จำนวน 887 คน พบว่า ส่วนใหญ่วางแผนที่พักผ่อนอยู่บ้านในช่วงสงกรานต์นี้ คิดเป็นร้อยละ 62.5 รองลงมาคือรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และเข้าวัดทำบุญสรงน้ำพระ คิดเป็นร้อยละ 52.8 และ 37.5 ตามลำดับ แม้ว่าประชาชนส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 46.8 นั้นจะได้รับการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิป้องกันโควิด-19 เข็ม 3 แล้วก็ตาม และหากจะกล่าวถึงความเหมาะสมในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ช่วงสงกรานต์นี้ ประชาชนเห็นพ้องกันว่าควรมีการตรวจ ATK ก่อนเดินทางหรือร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ และประเมินความเสี่ยงของตนเองก่อนเดินทาง คิดเป็นร้อยละ 94.4
ทั้งนี้แน่นอนว่าช่วงหยุดยาวประชาชนมีการเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก ซึ่งเมื่อสอบถามถึงในด้านการคมนาคมขนส่งช่วงเทศกาล พบว่าประชาชนมีความต้องการดังนี้ อยากให้มีการตรวจสอบปรับปรุงแก้ไขจุดเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน, การจัดการจราจรให้มีความคล่องตัว, การกำกับดูแลความพร้อมของพนักงานประจำรถโดยสารสาธารณะ, โทรศัพท์สายด่วนสำหรับให้ข้อมูลข่าวสารและรับเรื่องร้องเรียนที่พร้อมให้บริการ, ระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวกและเพียงพอ และ จำกัดจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภทตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ตามลำดับ
จะเห็นได้ว่าภาพรวมของโพลชี้ให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังคงกังวลต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงสงกรานต์ แต่ก็ไม่ถึงกับกังวลมากเท่ากับปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจุบันมีวัคซีนให้เลือกหลากหลายมากขึ้น ประชาชนเข้าถึงวัคซีนได้มากขึ้น และส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนกระตุ้มภูมิป้องกันโควิดถึง 3 เข็มแล้ว ซึ่งอย่างน้อยที่สุดนั้นวัคซีนจะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้ แต่ที่สำคัญสำหรับช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ เดินทางไปไหนก็ต้องไม่ลืมป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ ไม่ไปอยู่ในที่ที่มีคนแออัด รวมถึงเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกันเป็นเวลานาน ๆ เท่านี้ท่านก็จะมีความสุขความสบายใจความปลอดภัยตลอดปีใหม่ไทย 2565 ครับ รศ.ดร.โฆษิต กล่าวทิ้งท้าย
จิตสุภา ประหา /ข่าว
